⇒ ฝนตกขี้หูไหล แมวอะไรมี #ขี้หู ear #wax
เคยบางไหมที่เปิดดูหูนางเหมียวที่บ้านแล้วอดสงสัยไม่ได้ มันไปเผาถ่านเก็บฝืนที่ไหน ทำไมหูถึงดำมากทั้งๆที่เจ้เพิ่งจะเช็ดไปเองเมื่อวานนี้ วันนี้ผมเอาเรื่องคาใจของใครหลายคนมาเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางเหมียวหน้าขาวของเรากัน ตามผมมาครับ
ขี้หู หากมีหรือเกิดขึ้นนั่นย่อมหมายถึงเกิดการอักเสบของหูหละครับ สาเหตุที่ทำให้อักเสบได้มีด้วยกันหลายประการครับ เช่น เนื้องอก สิ่งที่ก่อภูมิแพ้ พยาธิ รวมไปถึงการติดเชื้อต่างๆ ซึ่งอาจทำให้นางเหมียวของคุณเจ็บปวด คันหูได้ครับ หากเมื่อเกิดปัญหา จำเป็นต้องรักษาแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะการรักษาที่ผิดชีวิตอาจจะพัง ให้คุณจำไว้ในใจเลยว่า นางเหมียวที่สุขภาพช่องหูดี จะมีขี้หูแค่เพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้นครับ ขี้หูก็จะออกน้ำตาล ไม่มีกลิ่นแรง แต่เมื่อขี้หูเปลี่ยนเป็นสีดำ น้ำตาลเข้ม มีกลิ่นแรง นั่นแปลว่านางเหมียวเสร็จแล้วครับ มีการติดเชื้อกับเขา
อาการของเหมียวมีปัญหาที่หูมีอะไรบ้าง
* มีขี้หูไม่พอ สียังเป็นสีผสมหลายๆสี และขี้หูหนา อาจจะเป็นหูเดียวหรือทั้งสองหู
* ขี้หูอาจตะมีหรือไม่มีกลิ่นเหม็น
* แมวมักจะเกาหู
* อาจจะสั่นหัวบ่อยๆ
* ทำหัวเอียงออกแนวแบ๊ว
* ทรงตัวไม่ดี
* เอาฝ่าเท้าลูบหูบ่อยครั้ง
* อาจจะเจ็บปวดกกหูได้
สาเหตุ การมีขี้หูนั้น คนส่วนมากมักคิดว่าไปอาบน้ำมาน้ำเข้าหู มันจริงเหรอ ขอให้ปรับความคิดกันใหม่ครับ สาเหตุมันเยอะกว่าที่คุณคิด อาบน้ำนี่แทบจะไม่อยู่ในลิสท์เลย มีอะไรบ้างนะ เช่น
* พยาธิ
* ติดเชื้อ
* กระแทก
* โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง
* เป็นแต่กำเนิด
* แพ้ยา(drug eruption)
* ติ่งเนื้อ(polyp)
* เนื้องอก(tumor)
* ภูมิแพ้ ทั้งนี้รวมถึงแพ้อาหาร(food allergy)และแพ้จากการหายใจ(atopy)
* ติดเชื้อแบคทีเรีย
* ติดเชื้อยีสต์
* สิ่งแปลกปลอมเข้าหู
* ไรในหู
เป็นไงครับ เยอะดีไหม บอกแล้วให้คุณลืมเรื่องน้ำเข้าหูไปได้เลย ซึ่งหลายครั้งเวลาซักประวัติ ผมก็มักจะเออออตามคนเล่าไปด้วย ไม่อยากขัดใจ เดี๋ยวจะรมณ์เสีย
เมื่อรู้สาเหตุก็ต้องรู้ว่าหมอเขาจะวินิจฉัยได้อย่างไรว่าอีเหมียวนั้นมันเป็นมาจากอะไรกันแน่ เพราะเราจะได้เกาได้ถูกจุด ไม่เหวี่ยงแหรักษา ไม่เช่นนั้นอาจนำมาซึ่งการเสียตังมากและไม่หายด้วยนะ เรามักจะเริ่มกันที่
* ประวัติและการตรวจร่างกาย นั่นหมายถึงประวัติเจ็บป่วยในอดีตด้วย เคยมีหูเน่ามาก่อนไหม หรือแค่หนนี้หนแรก หรือคุณไม่รู้ว่าเขาเคยมีหูอักเสบมาแล้ว(อันนี้เจอบ่อยมาก) เอะยังไง อาการในอดีตมันจะฟ้องมาหมดครับ อาหารที่ให้ ยาทีเคยใช้มาแต่ก่อน รวมไปถึงการส่องหู(otoscope)
* เอาขี้หูไปตรวจ อาจพบไรในหู ขี้ไร แบคทีเรียและยีสต์ ซึ่งสองอันหลังเจอเป็นปกติอยู่แล้วอย่าเพิ่งไปปักปรำเขาว่าเป็นสาเหตุ
* การทำ cytology จากขี้หู ก็บอกได้เช่นกันคล้ายๆกับการส่องขี้หู
* การทำ allergy test อาจจะทำโดยทำ Intradermal skin test หรือตรวจเลือด ก็ได้ อันนี้ต้องคุยกับคุณหมอ
* การทำ biopsy เพื่อดูว่ามีเนื้องอกชนิดอะไร
การรักษาก็ขึ้นกับสาเหตุครับ เหตุเกิดจากอะไรก็รักษาไปตามนั้น โดยมากหมอมักเลือก
* การใช้ยาเฉพาะจุดหยอดหู เช่นยาฆ่าไร ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและยีสต์ ร่วมไปกับการล้างช่องหู
* หากเป็นเนื้องอกก็ใช้วิธีตัดออก
* หากปัญหาที่รักษายังเป็นๆหายๆให้เราสงสัยได้เลยว่า อาจจะมียังสาเหตุแฝงที่เรายังไม่เจอ เช่นภูมิแพ้ ซึ่งมันก็หายยากจนถึงขั้นไม่หายเลยทีเดียว แต่เราก็มีวิธีจัดการกับมันเพื่อให้เหมียวอยู่เย็นไม่เป็นลิง เกาตลอดเวลา
* หากเกิดจากการกระแทก เยื่อแก้วหูขาด การได้ยินของนางเหมียวมักจะเสียหายไปไม่มากก็น้อย ซึ่งยากที่จะเยียวยาครับ
เรื่องขี้หูฟังดูง่ายนะครับ แต่ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิดไว้หรอก ควรหาสาเหตุให้พบ อย่าเข้าใจผิดคิดว่าขี้หูเป็นของปกติ มันอาจมีอะไรแอบไว้ให้คุณซี๊ดเล่นๆก็เป็นได้
#เพราะการรักษาเป็นสิ่งที่ต้องรีบเร่ง การวินิจฉัยให้ถูกต้องจึงเป็นพื้นฐานของการรักษาที่ดีต่อไป
ขอขอบคุณบทความจาก fb : https://www.facebook.com/ZuniVilar/
(PETiS+Animal Hospital โรงพยาบาลสัตว์+เพ็ทอีส)
บทความที่เกี่ยวข้อง ไรในหู